วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ต่อกันหมัดต่อกำมือ Samsung Galaxy Note 5 vs iPhone 6S vs iPhone 6S Plus ควักกระเป๋ารุ่นไหนดี ?

เริ่มไปอย่างยิ่งใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะว่า iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus ไอโฟนรุ่นล่าสุดประจำปี 2015 ที่ในปีนี้ มีการอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งการเพิ่มเทคโนโลยี Force Touch เสริมทัพด้วยฟีเจอร์ 3D Touch รวมไปถึง เพิ่มความละเอียดของเซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เรียกได้ว่า คงถูกอกถูกใจ สาวก iPhone กันไม่น้อยเลยทีเดียว



ส่วนอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่จำนนกัน นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note5 ที่เปิดตัวก่อนหน้า iPhone 6S ไปแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ที่ข้ามมา โดยจุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 5 รุ่นนี้ ก็คือ บอดี้ตัวเครื่องแบบโลหะ พร้อมชูจุดเด่นด้วยหน้าจอความละเอียดระดับ Quad HD รวมไปถึงกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยอาวุธคู่ใจที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ปากกา S Pen Stylus ที่ช่วยทำให้การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ สะดวกขึ้นกว่าเดิม

มาดูกันว่า ถ้าสมมตเราเปรียบเทียบสเปค ระหว่าง iPhone 6S vs iPhone 6S Plus vs Samsung Galaxy Note 5 ทั้ง 3 รุ่นนี้ จะโดดเด่นพร้อมด้วยแตกต่างอย่างไรบ้าง



ดีไซน์ด้วยกันการออกแบบ

มาโหมโรงกันที่การออกแบบของทั้ง 3 รุ่นกันก่อน เพราะทั้ง iPhone 6S, iPhone 6S Plus ด้วยกัน Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับบอดี้แบบโลหะเหมือนกันทั้ง 3 รุ่น พร้อมกับเป็นอะลูมิเนียมเกรด 7000 เหมือนกันอีกด้วย แน่นอนว่า ในเรื่องของความแข็งแกร่ง, ทนทาน พร้อมกับพรีเมียม ทั้ง 3 รุ่นนี้ สูสีกันแบบเห็นๆ

ส่วนขนาดตัวเครื่อง ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note 5 จักมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่กว่าถึง 5.7 นิ้ว แต่กลับมีน้ำหนักตัวเครื่อง เบากว่า iPhone 6S Plus ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วเสียอีก แต่เรื่องความบางนั้น Samsung Galaxy Note5 หนากว่าเล็กน้อย

หน้าจอแสดงผล



ด้วยว่า Samsung Galaxy Note5 นอกจากจะมาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 5.7 นิ้วแล้ว ยังมาพร้อมกับความละเอียดระดับ QHD 2560 x 1440 พิกเซล อีกด้วย ในขณะที่ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD 1080p เท่านั้น ทั้งๆ ที่ มือถือเรือธง ส่วนใหญ่ ขึ้นต้นใช้หน้าจอความละเอียดระดับ QHD กันหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของการแสดงผล ถือว่า Samsung Galaxy Note 5 ค่อนข้างเหนือกว่า

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note 5 จะได้เปรียบในเรื่องของหน้าจอใหญ่ แต่ในเรื่องของการพกพา คงไม่ยอมรับไม่ได้ว่า มือถือหน้าจอเล็ก พกพาได้สะดวกมากกว่า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบด้วยครับ

หน่วยประมวลผล



iPhone 6S และ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A9 พร้อมกับ M9 ซึ่งยังไม่มีข้อมูลระบุอย่างแน่ชัดว่า ชิปเซ็ตรุ่นนี้ เป็นแบบ Dual-Core เหรอ Quad-Core Processor กันแน่ รวมไปถึงข้อมูลในเรื่องของ หน่วยความจำ RAM ที่มีข่าวเลื่องว่า อาจจะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB ซึ่งคงต้องรอการพิสูจน์จากทาง iFixit อีกทีหนึ่ง

ส่วน Samsung Galaxy Note 5 จัดเต็มด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 7420 chipset) ความเร็ว 2.1 GHz พร้อมทั้งหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB เรียกได้ว่า เร็วด้วยกันแรงไม่แพ้รุ่นใด แต่จะแรงกว่า iPhone 6S พร้อมกับ iPhone 6S Plus ใช่ไหมไม่ คงต้องรอ Benchmark พิสูจน์กันรองลงไป

กล้องถ่ายรูป



เรียกได้ว่า ในปีนี้ แอปเปิล ได้ยืดอกอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว เพราะว่า iPhone 6S ด้วยกัน iPhone 6S Plus มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทัดเทียมกับ มือถือเรือธง รุ่นอื่นๆ แต่ล้ำหน้ากว่าด้วยไฟแฟลชแบบ Retina Flash ซึ่งจุดเด่นนี้ น่าจักช่วยดึงให้คนกลับมาใช้ iPhone ได้ไม่ยาก รวมไปถึงกล้องด้านหลัง ที่ปรับความละเอียดเป็น 12 ล้านพิกเซลแล้ว อีกทั้ง ยังรองรับการถ่ายคลิปวีดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K อีกด้วย

นอกเหนือจากไฟแฟลชแบบ Retina Flash กับปรับความละเอียดของกล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า พร้อมด้วยด้านหลังแล้ว ยังได้เพิ่มโหมดการถ่ายรูปแบบ Live Photos ที่เปลี่ยนภาพนิ่งธรรมดาๆ ให้เคลื่อนไหวได้ สร้างลูกเล่นให้กับการถ่ายภาพได้อีกส่วนหนึ่ง



ส่วน Samsung Galaxy Note 5 ก็ไม่น้อยหน้า จัดเต็มทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลังเช่นกัน โดยกล้องด้านหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลัง เรียกได้ว่า หมดปัญสมมติว่าารถ่ายรูปในที่แสงน้อยไปเลย เพราะว่ารับประกันความคมชัดพร้อมด้วยสว่างสดใสแน่นอน รวมไปถึงลูกเล่นด้านการถ่ายภาพ Samsung Galaxy Note 5 มีมากกว่า iPhone 6S พร้อมทั้ง iPhone 6S Plus เสียอีก

การเชื่อมต่อ

ทั้ง iPhone 6S, iPhone 6S Plus และ Samsung Galaxy Note 5 ต่างรองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC, GPS + A-GPS + GLONASS เหมือนกัน ส่วนด้านการเชื่อมต่อเปลี่ยนสายเคเบิล Samsung Galaxy Note 5 ใช้พอร์ต microUSB 2.0 ในขณะที่ iPhone 6S ด้วยกัน iPhone 6S Plus ใช้พอร์ต Lightning ซึ่งถ้าพูดถึงความสะดวกในการใช้ยามฉุกเฉิน ต้องประภาษว่า พอร์ตแบบ microUSB 2.0 สะดวกมากกว่า ด้วยเหตุที่มือถือหลายรุ่นต่างก็ใช้พอร์ตแบบนี้ ในขณะที่พอร์ตแบบ Lightning จะต้องเป็นผู้ใช้ iPhone 5 ขึ้นไปเท่านั้น จึงจักมีสายชาร์จแบบนี้

เซ็นเซอร์ต่างๆ

ทั้ง 3 รุ่น ต่างมาพร้อมกับเซ็นเซอร์พื้นฐานอย่าง Accelerometer Sensor, Gyro Sensor พร้อมทั้ง Proximity Sensor อยู่แล้ว รวมไปถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนปุ่ม Home อีกด้วย แต่สิ่งที่ Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า ก็คือ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย ในขณะที่ผู้ใช้ iPhone จักต้องวัดเปลี่ยน Apple Watch แทน

iPhone 6S, iPhone 6S Plus กับ Samsung Galaxy Note 5 รุ่นไหน คุ้มค่ามากกว่ากัน?



คำถามนี้ คงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากสักหน่อย เพราะทั้ง 3 รุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ด้าน iPhone 6S กับ iPhone 6S Plus สเปคไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ เชื่อได้ว่า สาวกคงจักปลงใจเฟุ้งเฟื่องกเองได้ไม่ยาก เพราะว่าเฉพาะผู้ที่ยังใช้ iPhone รุ่นเก่าอยู่ อย่าง iPhone 4S, iPhone 5 หรือ iPhone 5S น่าจะได้เวลาเปลี่ยนมาใช้กันแล้ว ใช่ไหมผู้ที่ใช้ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus อยู่ก่อนแล้ว ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เหตุเพราะตะกลามลองของใหม่อย่าง Force Touch กับ 3D Touch

เนื่องด้วยจุดเด่นในแต่ละด้านระหว่าง iPhone6S / iPhone 6S Plus และ Samsung Galaxy Note 5 คณะงานขอสรุปไว้เป็นข้อๆ ดังนี้

1. ด้านการแสดงผล

สมมตวัดกันที่การแสดงผล คงจักตัดสินได้ไม่ยากว่า Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่าในด้านนี้ ทั้งนี้เพราะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล ที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ QHD ในขณะที่ iPhone 6S Plus ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ระดับ Full HD เท่านั้น ซึ่งมือถือเรือธงส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับหน้าจอระดับ QHD กันหมดแล้ว

2. กล้องถ่ายรูป

Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่าในเรื่องของกล้องด้านหลัง ที่มาพร้อมกับความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ตอบสนองต่อการใช้งานในที่แสงน้อยได้ดี อีกทั้งยังมีลูกเล่นพร้อมด้วยโหมดการ ถ่ายภาพยังมีให้เลือเลื่องกใช้มากกว่า ส่วน iPhone 6S / iPhone 6S Plus เหนือกว่าในเรื่องของกล้องด้านหน้า ที่ถึงแม้จะมาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 5 แต่มีไฟแฟลชแบบ Retina Flash ในตัว ฉะนั้น ถ้าแม้ใช้งานด้าน Selfie ถือว่า iPhone 6S / iPhone 6S Plus ดีกว่า



3. การประมวลผล

ถ้าหากมองในเรื่องฮาร์ดแวร์ ณ ชั่วโมงนี้ ต้องทูลว่า Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า เพราะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB และซีพียูแบบ Octa-Core Processor แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า จักประมวลผลได้เร็วกว่า iPhone 6S / iPhone 6S Plus เพราะต้องรอผลการทดสอบ Benchmark มายืนยันอีกครั้ง ดังที่ทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบปฏิบัติการที่ต่างกันนั่นเอง

4. เทคโนโลยีใหม่ๆ

iPhone 6S / iPhone 6S Plus ถือว่า เป็นรุ่นที่มีการอัปเกรดมากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆ เพราะนอกจากจักอัปเกรดทั้งชิปเซ็ต พร้อมด้วยกล้องถ่ายรูปแล้ว ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีน้องใหม่แกะกล่องอย่าง Force Touch และ 3D Touch เพิ่มเข้ามา แต่ก็ต้องมองกันถัดยาวๆ ว่า เทคโนโลยีดังกล่าว จักมีความจำเป็นต่อการใช้งานมากแค่ไหน เช่นเดียวกับคราวที่ Apple เปิดตัว Touch ID ที่หลายๆ คนมองว่า เป็นฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น แต่ ณ ปัจจุบัน Touch ID ไม่ก็การสแกนลายนิ้วมือ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้งานสมาร์ทโฟนไปเสียแล้ว

ส่วน Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับเทคโนโลยี UHQ Upscaler ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของทั้ง เพลง กับวีดีโอ ให้มีรายละเอียดดีขึ้น กับคมชัดขึ้น ซึ่งทางเหล่างาน techmoblog ก็ได้ทำการพิสูจน์ในบทความรีวิวไปแล้วว่า เสียงคมชัดขึ้นกว่า Samsung Galaxy Note 4 สุทธิ แต่ด้วยว่าข้อนี้ คงต้องยกให้ iPhone 6S / iPhone 6S Plus เหนือกว่า ทั้งนี้เพราะเทคโนโลยี Force Touch พร้อมทั้ง 3D Touch ยังไม่เคยมี สมาร์ทโฟน รุ่นใดมีมาก่อนนั่นเอง

5. ค่า

ปิดท้ายด้วยด้านมูลค่ากันบ้าง Samsung Galaxy Note 5 เคาะสนนราคามาแล้ว อยู่ที่ 25,900 บาท ส่วน iPhone 6S พร้อมกับ iPhone 6S Plus คงต้องลุ้นกันรองลงไปว่า จักเคาะสนนราคาโหมโรงมาสูงหรือว่าต่ำกว่านี้

ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

ปลากัดไทยดังไปทั่วโลกครั้นเมื่อ Apple ชูเป็นวอลเปเปอร์ใหม่ใน iPhone 6s

สำนักข่าวไทย 10 ก.ย. – ปลากัดไทยดังทั่วโลก Apple ดึงเป็นวอลเปเปอร์โชว์ใน iPhone 6s พร้อมกับ iPhone 6s Plus รวมทั้งบนกล่องที่จะวางขายปลายเดือนนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสวยงามภูมิใจ คาดส่งผลดีต่อยอดขาย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเริ่ม iPhone 6s พร้อมทั้ง iPhone 6s Plus ครั้นวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา พบว่าภาพที่ปรากฏเป็นภาพพื้นหลังหรือไม่วอลล์เปเปอร์ของ iPhone รุ่นใหม่ เป็นภาพปลากัดไทยซึ่งมีหลากหลายสีสันสวยสดงดงาม ทั้งเป็นวอลเปเปอร์ที่เป็นภาพนิ่ง พร้อมด้วยไดนามิกวอลเปเปอร์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว โดยแสดงอยู่หลายภาพในหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple รวมทั้งยังจะปรากฏอยู่บนกล่องของ iPhone รุ่นใหม่ที่กำลังจักวางจำหน่ายไปทั่วโลกด้วย


ผู้บริหาร Apple กล่าวบนเวทีเปิดตัว iPhone 6s : ภาพจาก TheVerge.com


ภาพปลากัดไทยอย่างน้อย 5 ตัว ถูกเละบือกให้ปรากฏอยู่ในหน้าจอ iPhone ในหลายบริบทที่แตกต่างกันไป แต่ถือได้ว่าปลากัดกลายเป็นวอลเปเปอร์ลายหลักของ iPhone แบบใหม่ ด้วยกันเป็นแบบ exclusive เฉพาะ iPhone แบบใหม่นี้เท่านั้นเหตุเพราะไม่พบว่ามีปรากฏในระบบปฏิบัติการ iOS 9 เวอร์ชั่นที่ใช้กับ iPhone รุ่นอื่น ๆ แต่อย่างใด



ทั้งนี้ ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ iPhone เป็นภาพในลักษณะที่คล้ายกับผลงานของช่างภาพอิสระชาวไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่ว โลกจากการถ่ายภาพปลากัด คือ นายวิศรุต อังคทะวานิช มีผลงานได้รับการตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ระดับโลกหลายฉบับ อย่างไรก็ตาม นายวิศรุต ปิดประตูที่จักออกความคิดเห็นในเรื่องนี้

เพราะปลากัดที่กลายมาเป็นแบบในวอลเปเปอร์ของ iPhone แบบใหม่นี้ เป็นปลากัดสายพันธ์ฮาล์ฟมูน (Halfmoon betta) จัดเป็นปลากัดเกรดสูง มีสนนราคาตัวละหลักพันบาท ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะมีความสวยงาม ลักษณะของหางกาง 180 องศาเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เพราะว่าเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากเยอรมนีแต่พัฒนาสีสันให้สวยงามโดยเกษตรกรชาวไทย พร้อมกับส่งออกจนโด่งดังไปทั่วโลก

น.ส.สิรินุช ฉิมพลี เจ้าของฟาร์มปลากัดสิรินุชเบตต้าฟาร์ม เปิดแย้มว่า รู้สึกปลื้มใจ ดีใจ ภูมิใจแทนประเทศไทย และพี่น้องเกษตรกรชาวไทย ผู้เลี้ยงปลาสวยงาม ที่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือระดับโลกอย่าง iPhone เห็นความสำคัญด้วยกันความสวยงามของปลากัดไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตปลากัดส่งออกมากที่สุดในโลก กับพันธุ์ฮาล์ฟมูนนี้ก็เป็นพันธุ์ที่กำลังได้รับความนิยมส่งออกเป็นสัดส่วน มากที่สุด

“เชื่อว่าการที่ iPhone ได้ใช้ภาพปลากัดไทยในครั้งนี้ จักมีผลกับยอดขายปลากัดของเกษตรกรไทย เป็นการโปรโมทปลากัดไทย ทำให้คนรู้จักปลากัดไทย เป็นผลดีเหตุด้วยวงการผู้เลี้ยงปลาสวยงาม” น.ส.สิรินุช กล่าว



แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับฝ่ายงานที่มีส่วนในการผลิตผลงานครั้งนี้เปิดพูดว่า ตราบไม่กี่เดือนที่เปลี่ยนมา บริษัท Apple จากสหรัฐส่งฝ่ายงานชุดใหญ่มาจากต่างประเทศเพื่อถ่ายทำภาพปลากัดไทยทั้งเป็น ภาพนิ่งด้วยกันภาพเคลื่อนไหว เพราะมีคนไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วมเป็นพวกงานด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ทุกคนจำเป็นต้องทำหนังสือสัญญาปกปิดข้อมูลนี้เป็นความลับ

นักวิเคราะห์ต่างประเทศคาดว่า iPhone 6s และ iPhone 6s Plus อาจจักจำหน่ายได้มากกว่า 50 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ภายหลังวางขายวันแรกใน 12 ประเทศ วันที่ 25 กันยายนนี้ ส่วนกำหนดการวางขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ยังไม่มีการเปิดพูดแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย-

ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปก่อนเริ่มกับงาน Apple Event 2015 ทายเล่นๆ ว่าอะไรจักเปิดตัวพร้อม iPhone 6s

นับเวลาถอยหลังอีกไม่กี่ชั่วโมง กับงาน Apple Event 2015 ที่จักจัดขึ้น ณ หอประชุม Bill Graham เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เวลา 00:00 น. เหรอตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทยครับ มาดูกันครับคืนนี้เราจะเจออะไรใหม่บ้าง?

หลังจากที่ได้คาดการณ์เกี่ยวกับ iPhone 6s พร้อมทั้ง iPhone 6s Plus ว่าจะเจออะไร แต่อย่าลืมว่าในงาน Apple Event 2015 ไม่ได้มีแค่ไอโฟน แต่จักมีอะไรที่น่าสนใจโหมโรงบ้าง มาดูกัน



1. mac os 10.11 แบบใหม่ที่ชื่อ el capitan

เป็นการพัฒนาของระบบปฏิบัติการที่เน้นเรื่องการใช้ทรัพยากรให้น้อยลงเพิ่มความ เร็วมากขึ้น ตามเวลาของระบบปฏิบัติการเพราะคอมพิวเตอร์ในช่วงเวลานี้ ซึ่ง Mac OS X เวอร์ชั่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงส่วนมากจะเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมที่ปกติ เคยใช้ Open GL โอกาสนี้จักมาใช้ Metal แล้วซึ่งมีผลดีต่อการทำงานร่วมกับกราฟิกการ์ดของ Intel ตามที่เคยเสนอไปตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ทะลวงมา นอกจากนี้ยังปรับ Safari ให้ทำงานดีขึ้นพร้อมกับจะใช้งาน multi Touch ได้มากขึ้นอีกด้วย

ซึ่งการ ให้เป็นอิสระในครั้งนี้อาจจะรับสั่งถึงการอัพเกรดว่าจักโหมโรงขึ้นเท่าที่ใดกับรวมถึงฟีเจอร์ที่สรุปกันอีกครั้งด้วย

2.iOS9

ระบบ ปฏิบัติการของ iPhone, iPad กับ iPod Touch ถึงคราวที่จักต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยมากนั้นคือการจัดการทรัพยากรที่ดีขึ้น มันจะเร็วขึ้น เก็บ RAM น้อยลง เพิ่มเหลายสิ่งเช่น impoved keyboard ที่สมรรถสั่งงานได้มากกว่าเดิม, iPad Air2 ศักยใช้งาน Multi-Tasking ได้ นอกจากนี้ยังมี proactive assistant ระบบที่มีหน้าที่คล้ายกับ Google Now กล่าวคือ กล่าวสิ่งที่เราจักทำข้างหน้า พร้อมกับบางเรื่องก็รู้ดีกว่าเราซะงั้น, siri suggestions เป็นคำสั่งที่ทำให้ Siri ฉลาดมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสั่งให้สร้างปฏิทิน พิมพ์ข้อความ สั่งโทรออกและ Apps ที่เราใช้บ่อย และยังค้นหาแผนที่ได้ ต้องมาลุ้นว่า ถ้าทำได้แล้วในประเทศไทยมันจักสั่งงานได้ใช่ไหมไม่ต่อไป รวมทั้งฟีเจอร์ที่จักเชี่ยวชาญสั่งงานได้กับจอ Force Touch จักมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ถือว่าน่าสนใจเพราะว่ามันทำให้เร็วขึ้น พร้อมทั้งเก่งขึ้น แต่การเอาใจคนไทยที่ถือว่าเป็นกลุ่มประเทศที่ 3 ของ Apple จะมีความกรุณาใส่อะไรมาให้ได้ใช้กันมากขึ้นหรือไม่ก็ไม่อย่างไร

3.Watch OS2

Apple Watch แบบใหม่แม้จักยังไม่มากับยังไม่มีข่าวของ Smart Watch จาก Apple แต่ก็มีข่าวเรื่องระบบปฏิบัติการใหม่ที่เคยนำเสนอของ WWDC 2015 ที่ต้นปี โดยหลัก ๆ แล้วจะเพิ่มเรื่องการสั่งงานกับ iPhone ได้มากขึ้น ด้วยกันเพิ่ม accelerometer ให้ทำได้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น กับเชื่อมต่อกับ Apple Pay ได้อีกดว้ย ถือว่าสุดยอดพอสมควร เหละบือแค่ว่าจักอัพเกรดจาก Apple Watch ได้อย่างไรกันต่อจากนั้น

4.iPad Pro

แม้ว่าจักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ยาก เพราะว่าคงจะต้องเป็นการกั๊กให้เปิดช่วงปลายปีนี้ เพราะว่าข่าวที่หลุดว่า iPad จะมีขนาดใหญ่ถึง 12.2 นิ้วถือว่าใหญ่ที่สุดที่ Apple เคยทำมา แต่รายละเอียดที่เหระบือยังไม่ได้พูดออกมา ต้องลุ้นกันต่อจากนั้นว่าจักมีอะไรใหม่ไม่ใช่หรือจักกั๊กกันต่อจากนั้น

เห็นได้ว่าสิ่งที่คาดการณ์การเปิดตัวของ Apple ในครั้งนี้ ต้องการให้คนใช้งานได้รวดเร็วกับเน้นเรื่องของระบบปฏิบัติการเพื่อเชื่อมโยง ไปบริการทั้งหลายให้เกิดความราบรื่นขึ้นด้วย แล้วคุณล่ะ เตรียมพร้อมพบกับเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้แล้วใช้ให้เป็นประโยชน์กันหรือไม่ยัง

ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://hitech.sanook.com/

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

คลิปรับรอง iPhone 6s กำยำล่ำสันกว่าเดิมด้วยอะลูมิเนียมเกรด 7000 กับมีสีโรสโกลด์

ภาพจากคลิปยืนยันหน้าเว็บไซต์ iPhone 6s ด้วยกัน iPhone 6s Plus ตัวเครื่องแข็งแรงกว่าเดิมด้วยอะลูมิเนียมเกรด 7000 พร้อมกับตัวเครื่องมีสีโรสโกลด์ด้วย

จากคลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงตัวให้เห็นว่า iPhone 6s มีขนาดตัวเครื่อง 138.2 x 67.6 มม. ส่วนความบาง 7.1 มม. ซึ่งหนากว่าเดิม 0.2 มม. ทันทีที่เทียบกับ iPhone 6 ที่มีความบาง 6.9 มม. ตัวเครื่องแข็งแรงกว่าเดิมด้วยอะลูมิเนียมเกรด 7000 ซึ่งมีความแข็งแรงกว่า 60% พอเทียบกับอะลูมิเนียมทั่วไป พร้อมด้วยมีความหนาแน่นพ่าง 1 ใน 3 ของสแตนเลส ซึ่งทำให้มีตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาด้วย



นอกจากนี้แล้วตัวเครื่องยังมีสีใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย นั่นก็คือ โรสโกลด์ (Rose Gold) ซึ่งเป็นโทนสีทองชมพูแต่ไม่ใช่ทองคำแท้ คาดว่าสีใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับ Apple Watch รุ่น Edition ที่เป็นทองคำ



เหตุด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ iPhone 6s กับ iPhone 6s Plus จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 กันยายานนี้ รอติดตามครับ

รับชมคลิปคลิ๊กเลยจ้า...




ที่มา: thaizones-hitech

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

คาดเดาราคา iPhone 6s ในไทยตั้งต้น 24,900 บาท

หลังจากมีรายงานเกี่ยวกับมูลค่า iPhone 6s กับ iPhone 6s Plus จากฝั่งยุโรปที่มีค่าเท่ากับตอนเปิดตัว iPhone 6 พร้อมกับ iPhone 6 Plus จึงมีความเป็นไปได้ว่าค่า iPhone รุ่นใหม่ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยจักเท่าเดิม



แม้ว่า iPhone รุ่นใหม่ไม่ก็ iPhone 6s จักยังไม่เริ่ม แต่ด้วยราคานั้นคาดว่าเท่าเดิมกับ iPhone ด้วยดีไซน์ต่าง ๆ ซึ่งตามข่าวก่อนหน้านี้ต่างก็ให้ข้อมูลว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่จักมีการปรับสเปคในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานกับกล้องถ่ายรูปให้ดีกว่า เดิม



สมมติมูลค่า iPhone 6s มีมูลค่าเท่าเดิม ก็จักมีสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,900 บาทในรุ่นความจุ 16GB ซึ่งเป็นราคาบน Apple Online Store ส่วน iPhone 6 ด้วยกัน iPhone 6 Plus ก็จะปรับสนนราคาลงมาตามลำดับ



ปางย้อนกลับดูค่า iPhone 6 เทียบกับ iPhone 5s แล้วก็พบว่า iPhone 6 เปิดมูลค่าสูงกว่าเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ทั้งวัสดุ ดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง พร้อมทั้งสเปค แต่ด้วยว่า iPhone 6s แล้วยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม พร้อมด้วยขนาดก็น่าจะใกล้เคียง iPhone 6 ตามที่มีข่าวออกมาขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ค่าดังกล่าวเป็นพางการคาดการณ์ล่วงหน้าด้วยกันความเป็นไปได้เท่านั้น ส่วนข้อมูลพร้อมกับสนนราคาอย่างเป็นทางการต้องรอติดตามดูกันรองลงไปครับ

สนับสนุนเนื้อหา: www.iphone-droid.net
ติดตาม ข้อมูลข่าวสารไอทีได้ที่นี่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://hitech.sanook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักมักจี่กับ iPhone 6s ก่อนโหมโรงกันเถอะ!!

iPhone 6s ออกแบบมาแทบกับ iPhone 6 เลยก็แค่รวมความหนาขึ้นมานิดนึง

แม้น จักมีข่าวโคมลอยออกมาว่า iPhone 6S (ไอโฟน 6S) จะมีดีไซน์เหมือนกับกับ iPhone 6 ก็ตาม กลับดูตรงว่า คงมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ตราบข่าวแต้มสีล่าสุด เปรยว่า iPhone 6S จะหนาขึ้น จากเดิม 6.9 มิลลิเมตร เป็น 7.1 มิลลิเมตร ส่วนสาเหตุที่ทำให้ iPhone 6S หนาขึ้น เป็นก็เพราะว่าเทคโนโลยี Force Touch นั่นเอง

นอกจาก iPhone 6S จะมีความปรวนแปรในเรื่องของ ชิปเซ็ต และกล้องด้านหลังแล้ว ศูนย์ข่าวยังแย้มอีกว่า เทคโนโลยี Force Touch ถือว่า เป็นการเปลียนแปลงที่ใหญ่ที่สุดบนรุ่นนี้ แต่ก็ส่งผลให้ตัวเครื่องหนาขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนออกแบบอื่นๆ ยังคงเท่าเดิมไม่เปลี่ยน



เพราะว่าเทคโนโลยี Force Touch นั้น จะช่วยทำให้สามารถจำแนกแรงกดบนหน้าจอได้มากขึ้น ซึ่งถูกนำไปใช้บน Apple Watch แล้วนั่นเอง
เพื่อสูจิบัตรเปิดฉาก iPhone 6S คาดว่า เป็นวันที่ 6 กันยายนนี้

ที่มา : cultofmac.com

ใช้บอดี้อะลูมิเนียมเกรด 7000 แบบเดียวกับ Apple Watch Sport ค้ำประกันความแข็งแรง ไม่งอ



ล่าสุด ทาง Economic Daily News จากประเทศไต้หวัน แสดงตนว่า iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus จะเปลี่ยนเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ผลิตบอดี้ใหม่ เป็น อะลูมิเนียมอัลลอยด์เกรด 7000 ที่ใช้บน Apple Watch Sport ซึ่งมีความแข็งแรง กว่า อะลูมิเนียมทั่วๆ ไปถึง 60%



ด้วยว่าต้นสายปลายเหตุหลักๆ ที่ทำให้ แอปเปิล ต้องผลัดกันสิ่งของที่ใช้ผลิตบอดี้ใหม่ เป็นก็เพราะว่า iPhone 6 นั้น เจอแนวทาง #bendgate หรือไม่ก็ตัวเครื่องโค้งงอนั่นเอง ทำให้แอปเปิล หาวิธีที่จะแปรบอดี้ใหม่ อย่างไรก็ดี แต่ อะลูมิเนียมอัลลอยด์ จะมีความหนักแน่นไม่เท่า Stainless Steel แต่ก็มีน้ำหนักเบา, สามารถขึ้นรูปได้หลายสี และไม่มีผลพวงต่อตัวรับสัญญาณในตัวเครื่องอีกด้วย

ส่วนข้อมูลนี้ จะเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน ต้องตามกันต่อไปนะคร้าบบบ

ที่มา : macrumors.com

และสุดท้ายนี้ในส่วนของแบตเตอรี่ทาง Apple เค้าจักให้มาที่ปริมาตร 1715 mAh นะครับก็คิดว่าน่าจะพอใช้ได้ให้เกือบเต็มวันล่ะเนอะ อิอิ (นิจสินเท่าที่ผมใช้อยู่ตอนนี้จะเป็น Note 4 ซึ่งแบตก็ถือว่าอึดพอสมควรเลยนะ ถ้าเล่นบ้างนิดหน่อย เรื่อยๆ โซเชียลบ้าง อ่านนวนิยายบ้าง ก็พอดีเพื่อช่วงกลางวันทั้งวันอ่านะ แต่ถ้าเล่นเกมส์หนักๆ ก็ไม่มีเครื่องไหนหรอกที่จะอยู่รอดทั้งวัน มันขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานทั้งนั้นแหละครับ!!)

ปล. ปกติแล้วไอโฟนรุ่นใหม่จะออกรุ่นหลักมา จากนั้นรุ่นต่อไปจะตามด้วยรุ่นหลักแล้วเติม S เข้าไปต่อท้ายนะครับ เห็นมีคนเรียกผิดกันเยอะแยะเลย กลายเป็นว่าเรียกข้ามรุ่นไปยกตัวอย่างเช่นเมื่อปีที่แล้วทาง apple ออกไอโฟนใหม่มาโดยใช้ชื่อว่า iPhone 6 และ iPhone 6 plus ดังนั้นรุ่นที่จะออกในปีนี้ก็จะใช้ชื่อว่า iPhone 6s และ iPhone 6s plus นั่นเองจ้า ไม่ใช่ iPhone 7 นะฮะ ^^

ติดตาม ข่าวสารไอทีต่างๆ จากทางเราได้ที่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/>

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หลังจากที่ขาย Apple Watch ไปแล้วมามองดูกันว่ามีกี่รุ่น กี่สี กับแตกต่างกันไง

วันนี้เป็นอีกวันที่สาวก Apple ต้องตื่นกันแต่เช้าไปเข้าคิวรอซื้อ Apple Watch ตามร้านที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใครที่ไม่ต้องประสงค์ต่อคิวก็ทำได้คลิกสั่งซื้อแบบชิว ๆ กันได้ที่ Apple Online Store พร้อมจัดส่ง 1 วันทำการ เรามาดูกันว่า Apple Watch นั้นมีกี่รุ่น แต่ละรุ่นมีสีอะไร พร้อมทั้งแตกต่างกันอย่างไร

Apple Watch มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Watch Sport, Watch พร้อมด้วย Watch Edition โดยแต่ละรุ่นจักมีด้วยกัน 2 ขนาด คือ 38 มม. พร้อมทั้ง 42 มม.





Watch Sport
- ตัวเรือน 38 มม. มูลค่า 13,500 บาท กับ 42 มม. ราคา 15,500 บาท
- ตัวเรือนจักเป็นอะลูมิเนียมสีเงิน กับ อะลูมิเนียมสีเทาสเปซเกรย์มากับสาย Sport Band
- หน้าจอ Retina พร้อม Force Touch กระจก Ion-X พร้อมทั้งฝาหลังแบบคอมโพสิต
- ตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเงิน มาพร้อมกับสายสีขาว, สีฟ้า, สีเขียว กับสีชมพู เโจษกได้ตามความชอบ
- ตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเทาสเปซเกรย์ มาพร้อมสายแบบ Sport Band สีดำ สีเดียว






Watch
- ตัวเรือน 38 มม. พร้อมกับ 42 มม. มีทั้งเป็นสแตนเลสสตีล ด้วยกันสแตนเลสสตีลสีดำสเปซแบล็ค หน้าจอ Retina พร้อม Force Touch กระจกแซฟไฟร์ กับฝาหลังแบบเซรามิก
- รุ่นนี้ค่าจะแตกต่างกันที่ขนาดกับสายข้อมือที่มากับตัวเรือน
- รุ่นถูกสุดคือ ตัวเรือนสแตนเลสสตีล ขนาด 38 มม. พร้อมสายแบบ Sport Band สนนราคา 20,500 บาท
- รุ่นแพงสุดคือ ตัวเรือนสแตนเลสสตีล สีดำสเปซแบล็ค ขนาด 42 มม. พร้อมสายสแตนเลสสตีลแบบ Link Bracelet สีดำสเปซแบล็ค ราคา 41,500 บาท






Watch Edition
- เป็นรุ่นที่แพงที่สุด ตัวเรือนเป็นทองคำ 18 กะรัต มีขนาด 38 มม. พร้อมทั้ง 42 มม. หน้าจอ Retina พร้อม Force Touch กระจกแซฟไฟร์ พร้อมกับฝาหลังแบบเซรามิก
- ตัวเรือนมี 2 สี คือ สีโรสโกลด์ พร้อมด้วย สีเยลโลว์โกลด์
- รุ่นถูกสุดของโมเดลนี้คือ ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต สีโรสโกลด์ ขนาด 38 มม. พร้อมสายแบบ Sport Band สนนราคา 395,000 บาท
- รุ่นแพงสุดของโมเดลนี้คือ ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต สีเยลโลว์โกลด์ ขนาด 38 มม. พร้อมสายแบบ Modern Buckle ค่า 660,000 บาท




อุปกรณ์เสริม ศักยซื้อเพิ่มได้
- สายแบบ Sport Band ยาง Fluoroelastomer พร้อมตัวล็อคแบบเสียบหมุดแล้วสอดสาย ราคา 1,900 บาท
- สายแบบ Milanese Loop สแตนเลสสตีลแบบถักพร้อมตัวล็อคแม่เหล็กแบบปรับได้ สนนราคา 5,900 บาท
- สายแบบ Classic Buckle สายหนังดัตช์ที่สะบัดลวดลายพร้อมตัวล็อคแบบสแตนเลสสตีล สนนราคา 5,900 บาท
- สายแบบ Leather Loop สายบุหนัง Venezia พร้อมตัวล็อคแม่เหล็กแบบปรับได้ สนนราคา 5,900 บาท
- สายแบบ Modern Buckle หนัง Granada ที่เรียบสวยพร้อมตัวล็อคแม่เหล็กสองชิ้น สนนราคา 9,500 บาท
- สายแบบ Link Bracelet ผลิตจากโลหะผสมสแตนเลสสตีล 316L พร้อมตัวล็อคแบบปีกผีเสื้อที่เราออกแบบมาเพราะเฉพาะ ค่า 16,900 บาท
- USB Power Adapter ขนาด 5 วัตต์ สนนราคา 690 บาท (มีมาในกล่องอยู่แล้ว)
- สายชาร์จแบบแม่เหล็กเกี่ยวกับ Apple Watch (1ม.) ราคา 1,090 บาท
- สายชาร์จแบบแม่เหล็กเพราะด้วย Apple Watch (2ม.) มูลค่า 1,490 บาท (มีมาในกล่องอยู่แล้ว)
- Apple USB Power Adapter ขนาด 12 วัตต์ สนนราคา 690 บาท


ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/